หลังจากที่กระแสของไอทีสีเขียว (Green IT) เริ่มพัดเข้ามาสู่วงจรการบริหารจัดการสำนักงานเมื่อราวปีที่แล้ว และเราได้นำท่านสมาชิกอัพเดทเรื่องราวผ่านทางคอลัมน์ Green IT เพื่อรณรงค์ให้เกิดการประหยัดพลังงานและการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งในบ้าน สำนักงาน และทุกสถานที่รอบตัวของท่านแล้ว เรามาสอดส่ายสายตาดูประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงของเรากันบ้างนะคะ ว่าทุกคนมีความตื่นตัวในเรื่องนี้กันยังไงบ้าง?

Market Value
บริษัทวิจัยสปริงบอร์ด (Springboard) ได้คาดการณ์เอาไว้ว่าในปี พ.ศ. 2554 ตลาดบริการกรีนไอทีในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมญี่ปุ่น) จะมีมูลค่าราว 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 72,000 ล้านบาท ซึ่งออสเตรเลียน่าจะเป็นตลาดบริการกรีนไอทีที่ใหญ่ที่สุดในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ส่วนจีนและอินเดียก็คาดว่าจะเป็นตลาดที่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็วในภูมิภาคนี้

Opening War
ประเทศที่ทันสมัยอย่างสิงคโปร์ก็ไม่คิดที่จะตกกระแส โดยสำนักงานขนส่งทางบกได้จัดตั้งโครงการกรีนไอทีที่สามารถลดค่าใช้จ่ายให้กับรัฐบาลสิงคโปร์ได้กว่า 5.55 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 200 ล้านบาท ด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและให้บริการผ่านอินเทอร์เน็ต ทำให้สามารถลดการใช้พลังงานลงร้อยละ 50 รวมถึงลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของคอมพิวเตอร์ได้ประมาณ 500 กิโลกรัม/เครื่อง/ปี
บริษัทชื่อดังของญี่ปุ่นอย่างฮิตาชิดาต้าซิสเต็มส์ ก็มีการทำศูนย์ข้อมูลสีเขียว โดยทำระบบเก็บข้อมูล แม่ข่าย และอุปกรณ์เครือข่ายต่างๆ ให้สามารถประหยัดพลังงานและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่าร้อยละ 20 พร้อมตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 330,000 ตันในปี พ.ศ. 2555

กระแสเทคโนโลยีไอทีเพื่อสิ่งแวดล้อม ที่ตื่นตัวขึ้นจากสงครามการใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลือง กำลังก้าวข้ามไปสู่การเป็นผู้นำสงคราม แต่เป็นสงครามที่จะพลิกฟื้นโลกใบนี้ให้กลับมีชีวิตขึ้นอีกครั้ง ด้วยความมุ่งมั่นของประเทศต่างๆ รวมถึงพวกเราทุกคนที่จะมาเป็นผู้นำทัพในการแข่งขันกันทำให้โลกใบนี้เต็มไปด้วยสีเขียวอีกครั้งค่ะ

Information from: Telecom Journal, www.green-cabling.com

< < กลับ