สวนป่าแม่แจ่ม พร้อมเสนอกิจกรรม ที่น่าสนใจ
1. ผจญภัยกับเรือคยัคท่านจะได้รับความสนุกตื่นเต้น ท่ามกลางกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว และมีแก่งหินน้อยใหญ่ที่มาแต่งเติมความตื่นเต้นให้กับท่านพร้อมยังได้รับความปลอดภัยจากการควบคุมดูแลของเจ้าหน้าทึ่ผู้ชำนาญของเราใช้ระยะเวลาประมาณ 1.5 - 5 ชั่วโมง ลำละ 600.- บาท สำหรับ 2 ท่าน หรือล่องแพยาง 2,500.- บาทต่อลำ สำหรับ 8 ท่าน
2. ปั่นจักรยานเสือภูเขาชมลำเนาไพร ตามเส้นทางปั่นจักรยานเสือภูเขา ท่านจะได้สัมผัสบรรยากาศของธรรมชาติ ขุนเขาลำเนาไพร สวนป่าไม้สักที่เรียงรายอย่างสวยงาม และนกนานาชนิดคอยแต่งแต้ม ตลอดสองข้างทางจักรยาน ให้เช่าจำนวน 35 คัน วันละ 100.- บาทต่อท่าน
สถานที่ท่องเที่ยวของอำเภอแม่แจ่มและใกล้เคียง นอกเหนือจากเลือกซื้อผ้าซิ่นตีนจกที่มีชื่อแล้ว อ.แม่แจ่ม ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมาก
โดยเฉพาะวัดสำคัญที่มีอายุเก่าแก่ เช่น วัดพุทธเอ้น ซึ่งมีโบสถ์ตั้งอยู่กลางน้ำ
วัดป่าแดด ที่มีภาพจิตรกรรมฝาผนัง เรียงร้อยเรื่องราวเกี่ยว
กับพุทธประวัติ โดยฝีมือช่างชาวไทยใหญ่ น้ำตกแม่ปาน น้ำตกห้วยทรายเหลือง
และที่อื่น ๆ เช่น
บ้านถวาย อยู่ถัดจากเหมืองกุงไปตามเส้นทางสายเชียงใหม่-ฮอด
ประมาณหลักกิโลเมตรที่ 15 ถึงห้องสมุดประชาชนอำเภอหางดง
จึงแยกซ้ายเข้าหมู่บ้าน มีโรงงานผลิตไม้แกะสลักเพื่อจำหน่ายทั้งปลีกและส่ง
มีชื่อเสียงในการทำผลิตภัณฑ์เลียนแบบของเก่า ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถชมการผลิตและซื้อเป็นสินค้าที่ระลึกได้
เวียงท่ากาน เป็นเมืองเก่าแก่แห่งหนึ่งในสมัยหริภุญชัย เชื่อว่าเมืองนี้คงจะเริ่มสร้างขึ้นประมาณพุทธศตวรรษที่
13 สมัยพระเจ้าอาทิตยราชกษัตริย์ผู้ครองแคว้นหริภุญชัยสืบต่อมาจนถึงสมัยพญามังรายช่วงก่อนสร้างเมืองเชียงใหม่
โบราณสถานที่สำคัญอยู่บริเวณกลางเมืองในเขตโรงเรียน วัดท่ากาน และวัดต้นกอก
โบราณวัตถุที่พบ ได้แก่ พระพุทธรูปหินทราย
พระพุทธรูปดินเผา พระพิมพ์จำนวนมาก ไหเคลือบสีน้ำตาลบรรจุกระดูก และเครื่องถ้วยจีนสมัยราชวงศ์หยวน
(พ.ศ.1823-1911)
ปัจจุบัน เวียงท่ากานอยู่ในเขตท้องที่บ้านท่ากาน ตำบลบ้านกลาง อำเภอสันป่าตอง
ห่างจากเมืองเชียงใหม่ไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข
108 ประมาณ 34 กิโลเมตร ผ่านอำเภอสันป่าตองแล้วเลี้ยวซ้ายที่บ้านทุ่งเสี้ยว
เข้าไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร
วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร จากตัวเมืองเชียงใหม่มุ่งหน้าไปตามถนนสายเชียงใหม่-ฮอด 58 กิโลเมตร เป็นวัดสำคัญคู่เมืองจอมทองและเป็นที่เคารพสักการะของชาวเหนือโดยทั่วไป
ประะเพณีเด่นของวัดคือ การแห่ไม้ค้ำโพธิ์ ซึ่งเป็นประเพณีของชาวลานนาที่ถือว่าการเอาไม้มาค้ำโพธิ์เป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนา
วัดพระธาตุดอยน้อย ตั้งอยู่ที่ตำบลดอยหล่อ อำเภอจอมทอง ตามทางหลวงหมายเลข
108 ระหว่างกิโลเมตรที่ 43-44 หากมาจากเชียงใหม่
จะอยู่ฝั่งซ้ายมือ ตามประวัติว่าสร้างโดยพระนางจามเทวี เมื่อปี พ.ศ. 1201
มีโบราณสถานและโบราณวัตถุที่พบ ได้แก่ พระบรมธาตุ โข่งพระ
(กรุพระ) โบสถ์ วิหาร และพระพุทธรูปหินอ่อนแกะสลัก ทั้งองค์เล็กองค์ใหญ่มากมาย
บริเวณวัดตั้งอยู่บนภูเขาติดลำน้ำปิง มองเห็นทิวทัศน์
โดยรอบทุกทิศ มีบันไดนาคขึ้นไป 241 ขั้น
การเดินทางมีรถสองแถวสีเหลืองสายจอมทอง-แม่แจ่ม จะมีรถจากตลาดอำเภอจอมทองตรงวัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหารไปจอดที่บริเวณใกล้ๆโรงพยาบาลอำเภอแม่แจ่ม
เวลาบริการ
ประมาณ 9.00-17.00 น. ค่ารถ 45 บาท หลังจากนั้นต้องหารถเหมาไปหมู่บ้านอีกทอดหนึ่งราคา
ประมาณ 100 บาท หากต้องการวิทยากรนำชมติดต่อที่ว่าการอำเภอแม่แจ่มล่วงหน้า
โทร. (053) 485111 ต่อ ปกครองอำเภอ
อุทยานแห่งชาติออบหลวง ออบหลวงเป็นสถานที่น่าเที่ยวที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ความสวยงามและน่ากลัวไว้ในจุดเดียวกัน
กล่าวคือ เบื้องล่างเป็นแม่น้ำที่ไหลคดเคี้ยวผ่านช่องเขาขาดตรงออบหลวง ช่องเขานี้มีลักษณะเป็นหน้าผาสูงชันและแคบมาก
บีบทางน้ำไหล ดังนั้น แม่น้ำตรงนี้จึงเชี่ยวจัด เสียงน้ำกระทบหน้าผาดังสนั่น
รอบๆ บริเวณชายน้ำด้านเหนืองดงามไปด้วยหมู่ไม้น้อยใหญ่
ร่มรื่นอยู่ตลอดเวลาชั่วนาตาปี นอกจากนี้ยังมีสะพานเชื่อมช่องเขาขาดสำหรับนักท่องเที่ยวยืนชมความงดงามของทัศนียภาพออบหลวง
และภายในบริเวณอุทยานฯ มีการขุดค้นพบแหล่งโบราณคดียุคก่อนประวัติศาสตร์ด้วย
การเดินทาง อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ ตามทางหลวงหมายเลข108 สายฮอด-แม่สะเรียง
ตรงหลักกิโลเมตรที่ 17
รวมระยะทางประมาณ 105 กิโลเมตร สภาพทางลาดยางตลอด และช่วงระหว่างฮอดจนถึงออบหลวงนั้น
ถนนจะเลียบขนานไปกับแม่น้ำแม่แจ่มหรือแม่น้ำสลักหิน และวกไปเวียนมาตามไหล่เขา
สถานีทดลองปลูกพรรณไม้บ่อแก้ว (สวนสนบ่อแก้ว) ตามเส้นทางสายฮอด-แม่สะเรียง กิโลเมตรที่ 36 สถานีฯเป็นส่วนหนึ่งของโครงการสำรวจวัตถุดิบเพื่อทำเยื่อกระดาษ
เป็นแปลงทดลองปลูกพืชจำพวกสน และยูคาลิบตัส
ในเนื้อที่ทั้งหมด 2,072 ไร่ อากาศของที่นี่ชื้นและเย็นตลอดปี งามด้วยทิวสนที่ปลูกอย่างเป็นระเบียบงามตาจึงทำให้บริเวณสถานีกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมแห่งหนึ่ง
หมู่บ้านทอผ้าซิ่นตีนจก อยู่ห่างจากตัวอำเภอแม่แจ่มไปประมาณ 3 กิโลเมตร ตรงบ้านหมู่ ที่ 4-5 ตำบลท่าผา
เป็นตำบลที่ชาวบ้านนิยม
ทอผ้าซิ่นตีนจกกันมาก ซึ่งทำกันถึง 150 ครอบครัว และแต่ละบ้านจะมีเครื่องทออยู่ใต้ถุนบ้าน
ขณะนี้ผลิตภัณฑ์พื้นเมืองชนิดนี้กำลังเป็น
ที่นิยมอย่างสูง หากต้องการวิทยากรนำชมติดต่อที่ว่าการอำเภอแม่แจ่มล่วงหน้า
โทร. (053) 485111 ต่อ ปกครองอำเภอ
วัดพุทธเอิ้น ตั้งอยู่ที่ตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่ม
ตามประวัติกล่าวว่า วัดพุทธเอิ้นก่อสร้างในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ เมื่อ 200
กว่าปีมาแล้ว มีโบราณสถานซึ่งขึ้นทะเบียนกับกรมศิลปากรแล้วคือ "โบสถ์น้ำ"
คือมีน้ำล้อมรอบเป็น "อุทกสีมา" มีความหมายเหมือนกับ "ขันทสีมา"
ของโบสถ์บนบกบริเวณด้านหลังโบสถ์น้ำมีวิหารเก่าแก่ ซึ่งภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง
แต่เลือนลางไปมากแล้ว
บ้านไร่ไผ่งาม เป็นหมู่บ้านผลิตผ้าฝ้ายทอมือแบบโบราณที่มีคุณภาพและมีชื่อเสียงของจังหวัดเชียงใหม่
ตั้งอยู่กิโลเมตรที่ 69-70
ตามเส้นทางเชียงใหม่-ฮอด และเลี้ยวซ้ายเข้าไปหมู่บ้านอีกประมาณ 1 กม. ทางเข้าหมู่บ้านร่มรื่นด้วยเงาไม้ไผ่สองข้างทาง
ปัจจุบันกลุ่มแม่บ้านซึ่งได้รับการถ่ายทอดการผลิตผ้าฝ้ายทอมือย้อมสีธรรมชาติ
จากคุณป้าแสงดา บันสิทธิ์ ศิลปินแห่งชาติ
รวมกลุ่มกันผลิตที่บ้านป้าแสงดา ซึ่งอยู่ติดกับลำน้ำปิง ปัจจุบันได้จัดทำเป็น
"พิพิธภัณฑ์ผ้าป้าดา" เพื่อรำลึกถึงผลงานของท่าน และยังแสดงถึงชีวิตความเป็นอยู่แบบพื้นบ้านในสมัยก่อนด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติม โทร. (053) 361231 โทรสาร (053) 361230
สถานที่ติดต่อในเมืองเชียงใหม่ โทร. (053) 273625
ถ้ำโบราณ
หมู่1 บ้านสามส ต.ท่าผา อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่
ตำบลตำบลท่าผา อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่
ถ้ำลมแรด
ถ้ำลมแรด ตั้งอยู่หมู่ที่ 8 ตำบลบ้านทับ อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ระยะทางห่างจากที่ว่าการอำเภอ
100 กม.
ตำบลตำบลบ้านทับ อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่
ผาสกาป
ผาสกาป เป็นสถานที่พักผ่อนบริเวณฝั่งแม่น้ำแม่แจ่ม มีโขดหินและหาดทราย ห่างจากตัวอำเภอแม่แจ่ม
50 กม.
ตำบลตำบลแม่ศึก อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่
กิ่วแม่ปาน ทางเข้าอยู่กิโลเมตรที่ 42 ด้านซ้ายมือ ระยะทางเดิน 3 กิโลเมตร เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติโดยแท้จริง
ระหว่างทางเดินจะพบป่าดิบเขา ( Evergreen Hill) ก่อนผ่านเข้าสู่ทุ่งหญ้าซึ่งเคยเป็นพื้นที่ป่าถูกทำลายเพื่อเป็นการศึกษาลักษณะการเกิดผลกระทบต่อเนื่องบริเวณรอยต่อระหว่าง
พื้นที่ป่าสมบูรณ์กับพื้นที่ถูกทำลาย (edge effect) หลังจากนั้นทางเดินจะเลาะริมผามีไอหมอกปลิวผ่านตลอดเวลา
สองข้างจะพบดอกกุหลาบพันปี หรือ Rhododendron (ไม้พุ่มหรือไม้ต้นขนาดเล็ก
ขึ้นตามป่าในระดับสูง มีพันธุ์ดอกสีขาวและสีแดง เวลาออกดอกช่วงแรกมีลักษณะเหมือนปลีกล้วย
ก่อนที่จะบานเต็มต้นในช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ พบมากในแถบเทือกเขาหิมาลัยและเป็นไม้ประจำชาติของเนปาลด้วย)
มองลงไปยังเบื้องล่างจะพบทัศนียภาพที่งดงามของอำเภอแม่แจ่ม
การใช้เส้นทางนี้ต้องลงทะเบียนขอรับใบอนุญาตให้ใช้เส้นทางจากหัวหน้าอุทยานฯ
และควรจัดกลุ่มละไม่เกิน 15 คน ทางอุทยานฯไม่อนุญาตให้นำอาหรเข้าไปรับประทานในเส้นทาง
และจะปิดเส้นทางไม่อนุญาติให้เข้าไปท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1
มิถุนายน ถึงวันที่ 30 ตุลาคม ของทุกปี
|