Page 87 - รายงานประจำปี 2561
P. 87

หมายเหตุ  6   สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น (ต่อ)

                 รายที่ 1  ประธานคณะทำางานบริหารการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน (หัวหน้าฝ่ายกฎหมายธุรกิจ) ให้ชดใช้ค่าเสียหาย จำานวน
             ร้อยละ 70 ของมูลค่าความเสียหาย คิดเป็นเงิน 0.25 ล้านบาท
                 รายที่ 2  อดีตผู้อำานวยการองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ให้ชดใช้ค่าเสียหาย จำานวนร้อยละ 30 ของมูลค่าความเสียหายคิด
             เป็นเงิน 0.11 ล้านบาท โดยได้โอนเงินค้างจ่ายชดใช้แล้วทั้งจำานวน ตามบันทึกสำานักบัญชีและการเงิน ที่ ทส 1403.3/1588 ลง

             วันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559
                 ในขณะที่มีคำาสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหาย  ผู้เกี่ยวข้องรายที่  1  ฟ้องร้องดำาเนินคดีกับองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้
             กรณีที่ถูกสั่งลงโทษทางวินัยให้ออก  ต่อมาคดีของ  ผู้เกี่ยวข้องรายที่  1  สิ้นสุดลง  โดยศาลแรงงานกลาง  พิพากษาให้
             องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้รับ  ผู้เกี่ยวข้องรายที่  1  กลับเข้ามาทำางาน  ซึ่งองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้  มีคำาสั่งที่  140/2558

             ลงวันที่  29  กรกฎาคม  พ.ศ.  2558  ให้ผู้เกี่ยวข้องรายที่  1  กลับเข้ามาทำางานในตำาแหน่งผู้อำานวยการสำานัก  อัตราเงินเดือน
             0.04  ล้านบาท  และให้ผู้อำานวยการองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้  มีคำาสั่งให้หักเงินเดือน  ประจำาเดือนพฤษภาคม  พ.ศ.  2559
             อัตราร้อยละ 30 ของจำานวนเงินเดือน คิดเป็น 0.01 ล้านบาท ต่อมาสำานักทรัพยากรมนุษย์ มีความเห็นว่า การอายัดเงินเดือน
             ร้อยละ  30  ของจำานวนเงินเดือนต่อเดือน  อาจเป็นการดำาเนินการที่ขัดกับประกาศคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์

             เรื่อง มาตรฐานขั้นตำ่าของสภาพการจ้าง ในรัฐวิสาหกิจประกาศ ณ วันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 ข้อ 31 ห้ามมิให้หักเกิน
             ร้อยละสิบ เว้นแต่จะได้รับความยินยอมเป็นหนังสือ และวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2556 ผู้อำานวยการองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้
             ได้สั่งการให้ชะลอการหักเงินเดือนไว้ก่อน  จนกว่าจะได้ข้อยุติของศาลแรงงานกลาง  ตามคำาฟ้องคดีแรงงานหมายเลขดำา
             ที่ 1233/2559 ลงวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2559

                 เมื่อวันที่  3  มิถุนายน  พ.ศ.  2560  ศาลแรงงานกลาง  พิพากษายกฟ้องตามคดีหมายเลขดำาที่  1233/2559
             และเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ไม่ให้ดำาเนินการหักเงินเดือนชำาระหนี้ ตามคำาพิพากษา
             ศาลแรงงานกลาง  ตามบันทึกสั่งการผู้อำานวยการองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้  ท้ายบันทึกสำานักกฎหมาย  ที่  ทส  1405.2/256
             ลงวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 ซึ่งได้หักเงินเดือนชดใช้แล้วรวมจำานวนทั้งสิ้น 0.13 ล้านบาท

                 เมื่อวันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2561 ศาลอุทธรณ์คดีชำานัญพิเศษ พิพากษาแก้คำาพิพากษาศาลแรงงานกลาง ให้คืนเงินให้
             แก่  นายทรงพล  อาทรธุระสุข  (ผู้เกี่ยวข้องรายที่  1)  ซึ่งองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ได้นำาเงินจำานวนดังกล่าว  พร้อมดอกเบี้ยวางไว้
             ที่ศาลแรงงานกลาง และองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้อยู่ระหว่างขออนุญาตฎีกา ต่อศาลฎีกาตามคำาพิพากษาดังกล่าว
                 เมื่อวันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2562 ศาลแรงงานกลางอ่านคำาสั่งศาลฎีกา ดังนี้

                 1.  เงินที่องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้หักไว้ ศาลไม่รับวินิจฉัย ให้คืนเงินแก่โจทย์ (นายทรงพล อาทรธุระสุข)
                 2.  ดอกเบี้ย  ศาลขั้นต้น  พิพากษาให้องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้  (จำาเลย)  จ่ายในอัตราร้อยละ  15  ศาลฎีการับวินิจฉัย
             ในเรื่องดอกเบี้ยที่องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ขออนุญาตฎีกาดอกเบี้ย  ในอัตราร้อยละ  7.5  เนื่องจากเป็นรัฐวิสาหกิจอยู่ภายใต้
             บังคับแห่งพระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. 2543































             รายงานประจำาปี 2561 องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้                                                 หน้า 83
   82   83   84   85   86   87   88   89   90   91   92