Page 110 - รายงานประจำปี 2562 (แก้ไข 30 ต.ค.63)

หมายเหตุ 7 สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น (ต่อ)
ลูกหนี้อื่น ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 จ านวน 20.68 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นลูกหนี้ค่าปรับไม้สูญหายซึ่งอยู่
ในระหว่างด าเนินคดีหรืออยู่ระหว่างการยึดทรัพย์เพื่อขายทอดตลาด โดยองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ได้ตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะ

สูญแล้วตามหลักเกณฑ์ของกระทรวงการคลังจ านวน 20.24 ล้านบาท
ขัดข้อง – ลูกหนี้ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 จ านวน 5.23 ล้านบาท เป็นบัญชีที่บันทึกพักไว้ชั่วคราวทั้งด้านลูกหนี้
และเจ้าหนี้ (ตามหมายเหตุประกอบงบการเงินข้อที่ 17) เพื่อรอการสอบสวนสะสางและได้รวมไม้ที่สูญหายและขาดส ารวจ
ตั้งแต่ปี 2515 – 2562 จ านวน 5.23 ล้านบาท ซึ่งองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ได้ประมาณการเผื่อความเสียหายไว้เต็มจ านวนแล้ว
เงินค้างรับ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 จ านวน 7.34 ล้านบาท เป็นค่าจ้างตัดไม้และค่าดูแลไม้ค้างรับ
จ านวน 2.98 ล้านบาท เป็นไปตามสัญญาซื้อขายไม้ที่ บริษัท ทรอปิคอล ฟอร์เรสทรีส์ ทีพีอี จ ากัด ได้ท าไว้กับองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้
รายได้ผลิตภัณฑ์ยางพาราจ านวน 3.98 ล้านบาท และเงินค้างรับอื่นๆ อีกจ านวน 0.38 ล้านบาท
ลูกหนี้ความผิดทางแพ่ง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 จ านวน 41.52 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นลูกหนี้ที่เกิดจาก
ศาลแพ่งมีค าพิพากษา ตามคดีหมายเลขด าที่ 8423/2551 คดีหมายเลขแดงที่ 575/2553 เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2556
ให้ บริษัท ฐิติกาญจนค้าไม้ จ ากัด ชดใช้เงินค่าปรับให้แก่องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ เนื่องจากผิดสัญญาซื้อขายไม้หมอนรองราง

ธรรมดาเนื้อแข็ง ซึ่งท าให้องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ไม่สามารถด าเนินการส่งไม้หมอนให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทย
ได้ตามสัญญา จึงท าให้การรถไฟฟ้องคดีแพ่งเรียกค่าปรับตามสัญญาโดยได้มีการฟ้องร้องคดีแพ่งและได้มีข้อยุติของอนุญาโตตุลาการ
โดยให้ทางองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ต้องจ่ายเงินค่าปรับตามสัญญาให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นเงินจ านวน 13.86 ล้านบาท
และศาลแพ่งได้พิพากษาให้ บริษัท ฐิติกาญจนค้าไม้ จ ากัด ช าระเงินค่าปรับให้กับองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้เป็นเงิน
จ านวน 29.72 ล้านบาท โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการสืบหาหลักทรัพย์ของ บริษัท ฐิติกาญจนค้าไม้ จ ากัด
ลูกหนี้ความรับผิดทางละเมิด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 จ านวน 0.25 ล้านบาท เก ิดจากคณะกรรมการ-

บริหารกิจการขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ มีค าสั่งที่ 1/2555 ลงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2555 เรื่องให้รับผิดชดใช้
ค่าสินไหมทดแทนกรณีน าที่ดินขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ไปใช้ประโยชน์ โดยองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ได้รับความเสียหาย
และขาดรายได้เป็นเงิน 0.36 ล้านบาท จึงให้ผู้เกี่ยวข้อง 2 รายรับผิดชอบชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามมูลค่าความเสียหาย
ให้แก่องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ดังนี้
รายที่ 1 ประธานคณะท างานบริหารการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน (หัวหน้าฝ่ายกฎหมายธุรกิจ) ให้ชดใช้ค่าเสียหาย
จ านวนร้อยละ 70 ของมูลค่าความเสียหาย คิดเป็นเงิน 0.25 ล้านบาท
รายที่ 2 อดีตผู้อ านวยการองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ให้ชดใช้ค่าเสียหาย จ านวนร้อยละ 30 ของมูลค่า
ความเสียหายคิดเป็นเงิน 0.11 ล้านบาท โดยได้โอนเงินค้างจ่ายชดใช้แล้วทั้งจ านวนตามบันทึกส านักบัญชีและการเงิน
ที่ ทส 1403.3/1588 ลงวันที่ 9 พฤศจิกายน 2559

ในขณะที่มีค าสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหาย ผู้เกี่ยวข้องรายที่ 1 ฟ้องร้องด าเนินคดีกับองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้
กรณีที่ถูกสั่งลงโทษทางวินัยให้ออก ต่อมาคดีของผู้เกี่ยวข้องรายที่ 1 สิ้นสุดลงโดยศาลแรงงานกลางพิพากษา
ให้องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้รับผู้เกี่ยวข้องรายที่ 1 กลับเข้ามาท างาน ซึ่งองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ มีค าสั่ง ที่ 140/2558
ลงวันที่ 29 กรกฎาคม 2558 ให้ผู้เกี่ยวข้องรายที่ 1 กลับเข้ามาท างานในต าแหน่งผู้อ านวยการส านัก อัตราเงินเดือน 0.04 ล้านบาท
และผู้อ านวยการองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้มีค าสั่งให้หักเงินเดือน ประจ าเดือนพฤษภาคม 2559 อัตราร้อยละ 30 ของจ านวนเงินเดือน
คิดเป็น 0.01 ล้านบาท ต่อมาส านักทรัพยากรมนุษย์มีความเห็นว่า การอายัดเงินเดือนร้อยละ 30 ของจ านวนเงินเดือนต่อเดือน
อาจเป็นการด าเนินการที่ขัดกับประกาศคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ เรื่อง มาตรฐานขั้นต่ าของสถานภาพการจ้าง
ในรัฐวิสาหกิจ ประกาศ ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2549 ข้อ 31 ห้ามมิให้หักเกินร้อยละสิบ เว้นแต่จะได้รับความยินยอมเป็นหนังสือ

และวันที่ 6 มิถุนายน 2556 ผู้อ านวยการองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ได้สั่งการให้ชะลอการหักเงินเดือนไว้ก่อนจนกว่าจะได้ข้อยุติ
ของศาลแรงงานกลาง ตามค าฟ้องคดีแรงงานคดีหมายเลขด าที่ 1233/2559 ลงวันที่ 29 มิถุนายน 2559

รายงานประจ าปี 2562 องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ อ.อ.ป. ปลูกป่าเพื่อประชาชน หน้า 91