Page 59 - รายงานประจำปี 2561
P. 59
5) เนื่องจากผลการดำาเนินงานตามแผนบริหารความเสี่ยงบางแผนตำ่ากว่าเป้าหมายมาก จึงให้ทบทวน แผน
บริหารความเสี่ยง ให้มีความเป็นรูปธรรมเพิ่มขึ้น และนำาเสนอผู้บริหารพิจารณา ทบทวน ศึกษา วิเคราะห์ โดยพิจารณาถึง
ประสิทธิผลของการบริหารความเสี่ยง
6) ในการรายงานผลการดำาเนินงาน ขอให้ผู้บริหารที่รับผิดชอบการดำาเนินการตามแผนบริหารความเสี่ยง
(ผู้อำานวยการสำานักและรองผู้อำานวยการ) เข้าร่วมประชุมเพื่อร่วมพิจารณาแก้ไขปัญหา อุปสรรค และประสิทธิภาพ
ประสิทธิผลของแผนบริหารความเสี่ยง และให้เลขานุการคณะกรรมการบริหารความเสี่ยงเร่งรัดดำาเนินการจัดทำา
แผนบริหารความเสี่ยงขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ปี 2562
7) ให้นำารายงานทางการเงินที่มีค่าตัวชี้วัดต่างๆ เช่น ค่ากำาไรจากการดำาเนินงาน (ebida) ดีขึ้น และ
มีข้อบกพร่องลดลง ตัวชี้วัดเหล่านี้ต้องนำามาประกอบการรายงานความก้าวหน้า
1.5 การกำากับดูแลกิจการที่ดี
สอบทานการดำาเนินการ ตามหลักการกำากับดูแลกิจการที่ดีร่วมกับฝ่ายบริหาร และมีการแลกเปลี่ยน
ความคิดกับผู้บริหารระดับสูงในเรื่องเกี่ยวกับผลการดำาเนินงานที่ผ่านมา แนวโน้มในอนาคตการบริหารงานตามนโยบาย
การพัฒนาธุรกิจในอนาคตและแผนพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ
1.6 การรักษาคุณภาพของคณะกรรมการตรวจสอบองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้
คณะกรรมการตรวจสอบองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ มีการทบทวนและปรับปรุงกฎบัตรของ
คณะกรรมการตรวจสอบองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ โดยให้เพิ่มข้อความ “การปฏิบัติงานของคณะกรรมการตรวจสอบ
องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ให้เป็นไปตามคู่มือการปฏิบัติงานคณะกรรมการตรวจสอบที่จัดทำาขึ้น โดยสำานักงาน
คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ กระทรวงการคลัง และกฎหมาย ระเบียบที่เกี่ยวข้อง และตัดบทเฉพาะกาล ข้อ 19 ออก”
และได้มีการประเมินตนเองในการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการตรวจสอบองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ เป็นประจำาทุกปี
เพื่อปรับปรุงงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
2. ยุทธศาสตร์การบริหารจัดการในอนาคตขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้
คณะกรรมการตรวจสอบองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ได้ร่วมประชุมหารือ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
กับผู้บริหารระดับสูงขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ เกี่ยวกับผลการดำาเนินงานที่ผ่านมา และทิศทางการดำาเนินงานในอนาคต
ขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ซึ่งคณะกรรมการตรวจสอบองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ได้มีข้อเสนอแนะที่เป็นประเด็น
ทางยุทธศาสตร์การบริหารจัดการเพื่อให้องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ มีความเติบโตอย่างยั่งยืน ดังนี้
2.1 การดำาเนินธุรกิจการขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้
องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ได้ดำาเนินธุรกิจหลักด้านการปลูกสร้างสวนป่าเศรษฐกิจและธุรกิจป่าไม้
เป็นกิจกรรมที่ดำาเนินการมา ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2510 จนถึงปัจจุบัน มีพื้นที่สวนป่าเศรษฐกิจอยู่ 1,158,000 ไร่ จำานวน 245 สวนป่า
กระจายอยู่ทั่วประเทศ โดยมีชนิดไม้หลัก ซึ่งเป็นไม้เศรษฐกิจ 3 ชนิด ได้แก่
2.1.1 สวนป่าไม้สัก มีพื้นที่ปลูกประมาณ 601,000 ไร่ ผลผลิตไม้ซุงสักสวนป่าจำาหน่ายเพื่อการใช้สอย
ภายในประเทศ และมีการนำาไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สินค้า เพื่อเพิ่มมูลค่าในปริมาณที่ยังน้อยมาก และยังพบปัญหาการระบาด
ของแมลง (หนอนผีเสื้อ) เจาะต้นสัก
2.1.2 สวนป่าไม้ยูคาลิปตัส มีพื้นที่ปลูกประมาณ 107,000 ไร่ ผลผลิตต่อไร่โดยเฉลี่ยประมาณ 8 - 12 ตัน
ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับค่อนข้างตำ่า มีการจำาหน่ายส่วนใหญ่จะจำาหน่ายเป็นไม้ท่อน/นำ้าหนักเป็นตัน หรือเหมาเป็นไร่
2.1.3 สวนป่าไม้ยางพารา มีพื้นที่ปลูกประมาณ 86,000 ไร่ ดำาเนินการในรูปการผลิตไม้ซุงยางพารา
และนำ้ายางพารา โดยได้มีการสนองนโยบายของรัฐในการปรับลดพื้นที่การปลูกยางพารา มุ่งเน้นการปลูกไม้มีค่าทางเศรษฐกิจชนิดอื่นทดแทน
2.1.4 สวนป่าปลูกไม้มีค่าชนิดอื่นๆ มีพื้นที่ปลูกประมาณ 364,000 ไร่ ดำาเนินการในรูปแบบ
การปลูกสร้างสวนป่า เพื่อการอนุรักษ์และบริการด้านการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
จะเห็นได้ว่า ในอนาคตการเติบโตของธุรกิจหลักด้านการปลูกสร้างสวนป่าเศรษฐกิจและธุรกิจป่าไม้
โดยเฉพาะสวนป่าไม้สัก อาจจะประสบปัญหาด้านคุณภาพไม้ซุงสัก อันจะส่งผลกระทบไปยังธุรกิจอุตสาหกรรมป่าไม้ อันส่งผล
ทำาให้รายได้หลักจากการจำาหน่ายไม้สักสวนป่าลดลง ดังนั้น องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ จะต้องมีการวิเคราะห์และ
ใช้ข้อมูลผลผลิตไม้ซุงสักสวนป่าในเชิงคุณภาพ โดยให้นำาปัญหาที่พบอยู่ในปัจจุบันเพื่อคาดการณ์ผลผลิตในอนาคตที่อาจได้รับ
ผลกระทบจากโรคระบาดหรือแมลงเจาะทำาลายเนื้อไม้ เพื่อจัดทำาแผนการปลูกสร้างสวนป่าไม้สัก ระยะยาว 10 - 15 ปี รวมถึงให้มี
การพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ เพื่อพิจารณาปรับปรุงการดำาเนินงานของธุรกิจให้บรรลุเป้าหมายหลักขององค์กร
รายงานประจำาปี 2561 องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ หน้า 55