Page 104 - รายงานประจำปี 2561
P. 104

หมายเหตุ 26  เหตุการณ์สำาคัญ (ต่อ)

                  เมื่อวันที่  18  พฤศจิกายน  2558  ผู้แทนขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้  และบริษัท  สยาม  แอสเซท  จำากัด
          ได้เข้าร่วมประชุมหารือเพื่อหาแนวทางในการดำาเนินการตามสัญญาต่อไป  โดยที่ประชุมมีมติให้ บริษัท สยามแอสเซท จำากัด
          รับเงื่อนไขขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้  ไปเสนอต่อผู้บริหารของ  บริษัท  สยาม  แอสเซท  จำากัด  ทราบและพิจารณา
          และต่อมาองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ได้มีหนงสือ ที่ ทส 1417/124 ลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 สอบถามผลการพิจารณา
          ของ  บริษัท  สยาม  แอสเซท  จำากัด  เพื่อองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้จะได้นำาผลการพิจารณาเสนอให้คณะกรรมการบริหารกิจการ

          ขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้  ทราบและพิจารณาต่อไป  ซึ่งบริษัท  สยาม  แอสเซท  จำากัด  ยังไม่ได้แจ้งผลการพิจารณา
          ให้องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ทราบแต่อย่างใด
                  บริษัท  สยาม  แอสเซท  จำากัด  จึงได้นำาเงินค่าธรรมเนียมการจัดประโยชน์  งวดที่  8  ,  งวดที่  9  และงวดที่  10

          ไปวาง ณ สำานักงานวางทรัพย์ สำานักงานบังคับคดีแพ่ง กรุงเทพมหานคร 2 แต่องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ยังไม่ได้ไปรับเงิน
          จำานวนดังกล่าว  โดยองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้  ได้นำาปัญหาตามสัญญาฉบับดังกล่าว  เสนอให้คณะกรรมการบริหารกิจการ
          ขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ พิจารณาในคราวประชุม ครั้งที่ 7/2559 เมื่อวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2559 ซึ่งที่ประชุมมีมติว่า
          เพื่อให้เกิดความรอบคอบและรัดกุมในการดำาเนินงาน  จึงให้องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้  หารือไปยังสำานักงานอัยการสูงสุด
          ว่า  บริษัท  สยาม  แอสเซท  จำากัด  ผิดสัญญาและมีมูลเหตุเพียงพอที่องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้  จะสามารถบอกเลิกสัญญา

          กับ บริษัท สยาม แอสเซท จำากัด รวมทั้งริบหลักประกันสัญญาและค่าธรรมเนียมจัดประโยชน์ ตามเงื่อนไขของสัญญาข้อ 24
          และข้อ 25 ได้หรือไม่ เพียงใด และองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ได้ทำาหนังสือหารือตามประเด็นดังกล่าว ไปยังสำานักงานอัยการสูงสุดแล้ว
                  สำานักงานคดีปกครอง สำานักงานอัยการสูงสุด ได้มีบันทึก ด่วนที่สุด ที่ อส 0027.6/296 ลงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

          แจ้งผลการพิจารณาตามข้อหารือขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้  โดยให้ความเห็นว่า  ภายหลังจากที่สำานักงานคดีปกครอง
          ได้ตอบข้อหารือให้กับองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ในครั้งแรก  องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ได้ตั้งคณะทำางานไปเจรจาต่อรองกับ
          บริษัท สยาม แอสเซท จำากัด ว่าจะดำาเนินการตามสัญญาต่อไปหรือจะเลิกสัญญาด้วยความสมัครใจ ซึ่งผลปรากฏว่า บริษัท สยาม แอสเซท
          จำากัด  ประสงค์จะดำาเนินการตามสัญญาต่อไป  โดยไม่ขอยกเลิกสัญญาตามที่ได้แจ้งไว้ก่อนนั้น  รวมทั้งได้เสนอเงื่อนไขเพิ่มเติม
          เพื่อประกอบการดำาเนินการตามสัญญามายังองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้  และต่อมาองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ได้มีหนังสือ

          แจ้งไปยัง  บริษัท  สยาม  แอสเซท  จำากัด  ปฏิเสธไม่สามารถรับเงื่อนไขที่  บริษัท  สยาม  แอสเซท  จำากัด  เสนอมาได้  แต่หาก
          บริษัท สยาม แอสเซท จำากัด จะดำาเนินการตามสัญญาต่อไปก็สามารถดำาเนินการได้ เพราะปัจจุบันอายุของสัญญาเช่าฉบับดังกล่าว
          ยังไม่สิ้นสุดลง สำานักงานคดีปกครอง เห็นว่า เป็นการที่องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ แสดงเจตนาต่อ บริษัท สยาม แอสเซท จำากัด

          ว่า บริษัท สยาม แอสเซท จำากัด ยังไม่ผิดเงื่อนไขตามข้อ 25 ของสัญญา จึงสามารถที่จะดำาเนินการตามสัญญาต่อไปได้ อีกทั้ง
          เมื่อวันที่  18  พฤศจิกายน  พ.ศ.  2558  ยังไม่มีการประชุมร่วมกับ  บริษัท  สยาม  แอสเซท  จำากัด  เพื่อพิจารณาแนวทาง
          การเลิกสัญญาด้วยความสมัครใจของทั้งสองฝ่าย ซึ่ง บริษัท สยาม แอสเซท จำากัด แจ้งว่าพร้อมที่จะปฏิบัติตามสัญญาต่อไป
          ด้วยพฤติการณ์ต่างๆ  ดังกล่าว  ที่องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้  แสดงต่อ  บริษัท  สยาม  แอสเซท  จำากัด  เป็นการแสดงว่าที่
          บริษัท  สยาม  แอสเซท  จำากัด  ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำาหนดไว้ในสัญญาข้อ  3  ,  ข้อ  4  ,  ข้อ  5  และข้อ  6  ที่ผ่านมาแล้ว

          องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ไม่ถือว่าเป็นสาระสำาคัญ ด้วยเหตุนี้ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ จึงไม่อาจนำาการที่ บริษัท สยาม แอสเซท จำากัด
          ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำาหนดไว้ในสัญญาข้อต่างๆ ดังกล่าว ที่ผ่านมาแล้วมาเป็นเหตุบอกเลิกสัญญา ตามข้อ 25 ได้
                  แต่ถ้าองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้  ประสงค์จะยกเลิกสัญญา  เพราะเหตุที่  บริษัท  สยาม  แอสเซท  จำากัด

          ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำาหนดไว้ในสัญญาข้อต่างๆ ดังกล่าว องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ต้องบอกกล่าวให้ บริษัท สยาม แอสเซท จำากัด
          ซึ่งเป็นฝ่ายที่ผิดสัญญา แก้ไขการผิดสัญญาในข้อต่างๆ ดังกล่าว ภายในระยะเวลาอันสมควรก่อน และหาก บริษัท สยาม แอสเซท จำากัด
          ไม่แก้ไขการผิดสัญญานั้นภายในระยะเวลาที่กำาหนด องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้จึงจะมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ตามนัย มาตรา 387
          แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และทำาให้เกิดสิทธิตามสัญญาข้อ 25 อีกด้วย
                  ส่วนการพิจารณาว่าจะใช้สิทธิดังกล่าวบอกเลิกสัญญากับ  บริษัท  สยาม  แอสเซท  จำากัด  หรือไม่นั้น

          อยู่ในดุลพินิจขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้  ซึ่งสำานักงานคดีปกครอง  สำานักงานอัยการสูงสุด  ไม่อาจให้ความเห็นได้
          เนื่องจากสัญญาเช่าที่ดินเพื่อใช้ประโยชน์ที่ดินแปลงบางโพ กรุงเทพมหานคร เป็นสัญญาต่างตอบแทน องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้
          จึงต้องพิจารณาด้วยว่า  ตนได้ปฏิบัติหน้าที่ที่กำาหนดไว้ในสัญญาถูกต้องครบถ้วนหรือไม่  เพียงใดตามนัย  มาตรา  369

          แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

          หน้า 100                                                         รายงานประจำาปี 2561 องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้
   99   100   101   102   103   104   105   106   107   108   109