Page 127 - รายงานประจำปี 2562 (แก้ไข 30 ต.ค.63)
P. 127
หมายเหตุ 28 เหตุการณ์ภายหลังรอบระยะเวลารายงาน (ต่อ)
ส านักงานอัยการสูงสุดได้มีหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ อส 0027.6/0248 ลงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 แจ้งผล
การพิจารณากรณีองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ขอหารือในประเด็นการยกเลิกสัญญาให้เช่าใช้ประโยชน์ที่ดินแปลงบางโพ
กรุงเทพมหานคร สัญญาเลขที่ ส.กม. 22/2555 ลงวันที่ 23 สิงหาคม 2555 โดยส านักงานคดีปกครอง ส านักงานอัยการสูงสุด
พิจารณาแล้ว มีความเห็นว่า การยุติสัญญาจะเกิดขึ้นได้ 2 กรณี คือ
1. เกิดขึ้นโดยความสมัครใจของคู่สัญญา
2. เกิดจากการกระท าความผิดสัญญาของคู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตามที่ระบุไว้ในสัญญาหรือในกฎหมาย
ให้สามารถบอกเลิกสัญญาได้ และทั้งสองกรณีคู่สัญญาต้องกลับสู่ฐานะเดิม โดยบริษัทฯ ต้องส่งมอบที่ดินและองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้
ต้องคืนเงินหลักประกันและค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่ได้รับไว้คืนบริษัทฯ ทั้งนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 391
แต่ถ้าเป็นกรณีบริษัทฯ กระท าผิดสัญญาหรือผิดกฎหมายแต่เพียงฝ่ายเดียวองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้นอกจากสามารถบอกเลิกสัญญา
แล้วยังสามารถเรียกค่าเสียหายและค่าปรับ รวมทั้งริบหลักประกันสัญญาทั้งหมดหรือบางส่วนได้ด้วยส่วนองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้
ควรพิจารณาเลิกสัญญากับบริษัทฯ หรือไม่ อย่างไร อยู่ในดุลยพินิจขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ซึ่งส านักงานคดีปกครอง
ส านักงานอัยการสูงสุด ไม่อาจให้ความเห็นได้
องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ได้มีค าสั่ง ที่ 59/2557 ลงวันที่ 8 เมษายน 2557 เรื่อง แต่งตั้งคณะท างาน
ในการแก้ไขปัญหาการเช่าที่ดินเพื่อใช้ประโยชน์ที่ดินแปลงบางโพ กรุงเทพมหานคร ตามสัญญาเลขที่ ส.กม. 22/2555
ลงวันที่ 23 สิงหาคม 2555 เพื่อหาข้อยุติในแนวทางการเลิกสัญญาเพื่อให้เกิดผลดีกับคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายโดยให้เป็นไป
ตามกฎหมายและสัญญาต่อไป
คณะท างานตามค าสั่งองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ที่ 59/2557 ลงวันที่ 8 เมษายน 2557 ได้มีการนัดประชุม
เพื่อหารือและก าหนดแนวทางแก้ไขปัญหาการเช่าที่ดินเพื่อใช้ประโยชน์ที่ดินแปลงบางโพ กรุงเทพมหานคร และได้สรุปเสนอ
ความเห็นต่อองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้แล้วเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2557 โดยได้เสนอความเห็น 2 แนวทาง คือ
1. ด าเนินการตามสัญญาต่อไปด้วยเหตุผล ดังนี้
1.1 เนื่องจากยังฟังไม่ได้ว่ามีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งผิดสัญญาและคู่สัญญายังไม่มีการตกลงเลิกสัญญากัน
1.2 ในขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาตามหนังสือขอเลิกสัญญาของบริษัทฯ ซึ่งปัจจุบัน
องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ยังพิจารณาไม่แล้วเสร็จสัญญาจึงมีผลผูกพันอยู่
1.3 หากองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ไม่ตกลงเลิกสัญญา สัญญาก็ยังคงผูกพันและเพื่อให้มีการด าเนินการ
ตามสัญญาต่อไป องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้จะต้องแจ้งให้บริษัทฯ ทราบและตกลงเพื่อปฏิบัติตามสัญญาต่อไป หากบริษัทฯ
คู่สัญญาไม่ขอเลิกสัญญาตามที่ได้มีหนังสือแจ้งมาและตกลงที่จะด าเนินการตามสัญญาต่อไป โดยจะต้องมีการท าบันทึกข้อตกลง
ต่อท้ายสัญญาเพื่อปรับเปลี่ยนเงื่อนเวลาให้สอดคล้องกับระยะเวลาที่เสียไปในระหว่างการพิจารณาขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้
หากบริษัทฯ ยังยืนยันจะขอเลิกสัญญาโดยเรียกค่าเสียหายตามหนังสือที่ได้แจ้งยกเลิกสัญญานั้น
องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้จะต้องโต้แย้งว่าองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ไม่ได้กระท าผิดข้อสัญญาองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้
ไม่สามารถช าระค่าเสียหายให้กับบริษัทฯ ได้
2. กรณีเลิกสัญญาสามารถด าเนินการได้ด้วยความสมัครใจด้วยเหตุผล ดังนี้
2.1 องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้สามารถน าที่ดินไว้ใช้ประโยชน์ด้านยุทธศาสตร์โดยที่ดินแปลงบางโพ
กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีท าเลที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ตลาดอุตสาหกรรมไม้ ซึ่งเหมาะกับกิจการขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ จึงเห็นควรให้มี
การทบทวนพิจารณาการใช้ประโยชน์เพื่อกิจการขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ด้วยอีกทางหนึ่ง
2.2 การพัฒนาที่ดินใหม่อาจจะท าให้องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ได้รับผลประโยชน์ตอบแทน
ที่มากกว่าการให้เช่าใช้ประโยชน์ตามสัญญานี้
2.3 การเลิกสัญญาจะท าให้ทั้งสองฝ่ายกลับสู่ฐานะเดิม โดยองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้จะต้องคืนเงิน
ที่ได้รับไว้ให้กับบริษัทฯ และองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยและค่าเสียหายอื่นๆ (ถ้ามี) ให้กับบริษัทฯ เนื่องจาก
องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้มิได้กระท าผิดเงื่อนไขซึ่งในกรณีนี้ทั้งสองฝ่ายจะต้องท าบันทึกข้อตกลงต่อท้ายสัญญาฯ เพื่อที่จะไม่
เรียกร้องค่าเสียหายต่อกัน เนื่องจากองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ไม่ได้กระท าผิดเงื่อนไขตามสัญญา
รายงานประจ าปี 2562 องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ อ.อ.ป. ปลูกป่าเพื่อประชาชน หน้า 107