Page 129 - รายงานประจำปี 2562 (แก้ไข 30 ต.ค.63)
P. 129
หมายเหตุ 28 เหตุการณ์ภายหลังรอบระยะเวลารายงาน (ต่อ)
องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ได้น าเรื่องเสนอคณะกรรมการบริหารกิจการขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้
ในการประชุมครั้งที่ 5/2558 เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2558 ที่ประชุมได้มีมติให้องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้รับข้อคิดเห็น
ให้ด าเนินการเจรจารายละเอียดเงื่อนไขกับบริษัทฯ ให้ได้ข้อสรุปเป็นที่ยุติก่อนแล้วจึงน าเสนอคณะกรรมการฯ พิจารณา
ซึ่งองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ได้มีหนังสือที่ ทส 1400/573 ลงวันที่ 10 สิงหาคม 2558 เรื่องการปฏิบัติตามสัญญาเช่า
ได้แจ้งผลการพิจารณาข้อเสนอเงื่อนไขให้บริษัทฯ ทราบว่า องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ไม่สามารถรับเงื่อนไขข้อเสนอของบริษัทฯ ได้
และหากบริษัทฯ ประสงค์ที่จะเจรจาหรือเสนอเงื่อนไขอื่นๆ ประการใด ขอให้บริษัทฯ แจ้งให้องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ทราบ
ภายใน 15 วันนับถัดจากวันที่ได้รับหนังสือฉบับนี้ ซึ่งต่อมาบริษัทฯ ได้มีหนังสือลงวันที่ 20 สิงหาคม 2558 แจ้งความประสงค์
ขอเข้าร่วมประชุมกันองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้เพื่อเสนอปัญหา อุปสรรค และมาตรการในการแก้ไขปัญหาตามสัญญาเช่า
ใช้ประโยชน์ที่ดินแปลงบางโพ กรุงเทพมหานคร ซึ่งองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ได้มีการนัดประชุมหารือผู้เกี่ยวข้อง
เพื่อก าหนดแนวทางการเจรจาและปัจจุบันส านักธุรกิจและการตลาดได้ท าหนังสือ ที่ ทส 1417/738 ลงวันที่ 7 ตุลาคม 2558
เรื่อง การปฏิบัติตามสัญญาเช่า แจ้งให้บริษัทฯ ทราบเพื่อก าหนดนัดประชุมหารือสองฝ่ายต่อไป
เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2558 ผู้แทนขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ และบริษัท สยาม แอสเซท จ ากัด
ได้เข้าร่วมประชุมหารือเพื่อหาแนวทางในการด าเนินการตามสัญญาต่อไป โดยที่ประชุมมีมติให้บริษัทฯ รับเงื่อนไขของ
องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ไปเสนอต่อผู้บริหารของบริษัทฯ ทราบและพิจารณา และต่อมาองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้
ได้มีหนังสือ ที่ ทส 1417/124 ลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2559 สอบถามผลการพิจารณาของบริษัทฯ เพื่อองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้
จะได้น าผลการพิจารณาเสนอให้คณะกรรมการบริหารกิจการขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ทราบและพิจารณาต่อไป ซึ่งบริษัทฯ
ยังไม่ได้แจ้งผลการพิจารณาองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ทราบแต่อย่างใด
บริษัท สยาม แอสเซท จ ากัด จึงได้น าเงินค่าธรรมเนียมการจัดประโยชน์งวดที่ 8 , 9 และ 10 ไปวาง
ในการด าเนินงาน จึงให้องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้หารือไปยังส านักงานอัยการสูงสุดว่าบริษัทฯ ผิดสัญญาและมีมูลเหตุเพียงพอ
ที่องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้จะสามารถบอกเลิกสัญญากับบริษัทฯ รวมทั้งริบหลักประกันสัญญาและค่าธรรมเนียมจัดประโยชน์
ตามเงื่อนไขของสัญญาข้อ 24 และข้อ 25 ได้หรือไม่ เพียงใด และองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ได้ท าหนังสือหารือตามประเด็น
ดังกล่าวไปยังส านักงานอัยการสูงสุดแล้ว
ส านักงานคดีปกครอง ส านักงานอัยการสูงสุด ได้มีบันทึก ด่วนที่สุด ที่ อส 0027.6/296 ลงวันที่
15 กุมภาพันธ์ 2560 แจ้งผลการพิจารณาตามข้อหารือขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ โดยให้ความเห็นว่า ภายหลังจากที่
ส านักงานคดีปกครองได้ตอบข้อหารือให้กับองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ในครั้งแรกองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ได้ตั้งคณะท างาน
ไปเจรจาต่อรองกับบริษัทฯ ว่าจะด าเนินการตามสัญญาต่อไปหรือจะเลิกสัญญาด้วยความสมัครใจ ซึ่งผลปรากฏว่า บริษัทฯ
ประสงค์จะด าเนินการตามสัญญาต่อไป โดยไม่ขอยกเลิกสัญญาตามที่ได้แจ้งไว้ก่อนนั้น รวมทั้งได้เสนอเงื่อนไขเพิ่มเติมเพื่อประกอบ
การด าเนินการตามสัญญามายังองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ และต่อมาองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ได้มีหนังสือแจ้งไปยังบริษัทฯ
ปฏิเสธไม่สามารถรับเงื่อนไขที่บริษัทฯ เสนอมาให้ แต่หากบริษัทฯ จะด าเนินการตามสัญญาต่อไปก็สามารถด าเนินการได้
เพราะปัจจุบันอายุของสัญญาเช่าฉบับดังกล่าวยังไม่สิ้นสุดลง ส านักงานคดีปกครองเห็นว่า เป็นการที่องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้
แสดงเจตนาต่อบริษัทฯ ว่าบริษัทฯ ยังไม่ผิดเงื่อนไขตามข้อ 25 ของสัญญา จึงสามารถที่จะด าเนินการตามสัญญาต่อไปได้อีก
ทั้งเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2558 ยังได้มีการประชุมร่วมกับบริษัทฯ เพื่อพิจารณาแนวทางการเลิกสัญญาด้วยความสมัครใจ
ของทั้งสองฝ่าย ซึ่งบริษัทฯ แจ้งว่าพร้อมที่จะปฏิบัติตามสัญญาต่อไป ด้วยพฤติการณ์ต่างๆ ดังกล่าวที่ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้
แสดงต่อบริษัทฯ เป็นการแสดงว่าที่บริษัทฯ ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ก าหนดไว้ในสัญญาข้อ 3 ข้อ 4 ข้อ 5 และ ข้อ 6 ที่ผ่านมาแล้ว
องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ไม่ถือว่าเป็นสาระส าคัญ ด้วยเหตุนี้องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ไม่อาจน าการที่บริษัทฯ ไม่ปฏิบัติตาม
เงื่อนไขที่ก าหนดไว้ในสัญญาข้อต่างๆ ดังกล่าวที่ผ่านมาแล้วมาเป็นเหตุบอกเลิกสัญญาตามข้อ 25 ได้
แต่ถ้าองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ประสงค์จะยกเลิกสัญญาเพราะเหตุที่บริษัทฯ ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข
ที่ก าหนดไว้ในสัญญาข้อต่างๆ ดังกล่าว องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ต้องบอกกล่าวให้บริษัทฯ ซึ่งเป็นฝ่ายที่ผิดสัญญาแก้ไข
การผิดสัญญาในข้อต่างๆ ดังกล่าวภายในระยะเวลาอันสมควรก่อน และหากบริษัทฯ ไม่แก้ไขการผิดสัญญานั้นภายในระยะเวลา
ที่ก าหนดองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ จึงจะมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ตามนัยมาตรา 387 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
และท าให้เกิดสิทธิตามสัญญาข้อ 25 อีกด้วย
รายงานประจ าปี 2562 องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ อ.อ.ป. ปลูกป่าเพื่อประชนชน หน้า 109